สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ช่วงสับเปลี่ยนกำลังและเปลี่ยนตัวแม่ทัพภาคที่ 4 ยังคงมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเป้าหมายคือครูและประชาชนผู้บริสุทธิ์
เหตุการณ์แรก เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 1 ต.ค.61 วันแรกของปีงบประมาณใหม่ คนร้ายจำนวน 4 คนมีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ ขี่ตามประกบรถของ นายถวิล แซ่ฮ่ำ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี ขณะกำลังขับรถเก๋งส่วนตัวเดินทางไปโรงเรียน เมื่อสบโอกาสได้ใช้อาวุธปืนอาก้ายิงใส่ โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในท้องที่หมู่ 3 ต.พ่อมิ่ง อ.ปะนาเระ ใกล้ๆ กับสำนักงานเทศบาลตำบลพ่อมิ่ง แต่โชคดีที่กระสุนพลาดเป้า ทำให้ครูถวิลไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่รถพังเสียหายเพราะเหยียบตะปูเรือใบที่คนร้ายโปรยทิ้งไว้
หลังจากข่าวครูถวิลถูกลอบยิงเผยแพร่ออกไป ได้มีเพื่อนครูและผู้บริหารสำนักงานเขตพื้้นที่การศึกษาเดินทางมาให้กำลังใจ และเตือนให้ระมัดระวังช่วงการเดินทาง
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันเสาร์ที่ 29 ก.ย. คนร้ายซุ่มยิง นายมะสะกรี สาแม อายุ 46 ปี ชาว อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี ขณะช่วยกันกับภรรยาและลูกๆ เก็บมะพร้าวอยู่ที่หน้าบ้านของตนเอง กระสุนปืนถูกนายมะสะกรีเสียชีวิตคาที่ และยังพลาดไปถูกลูกสาววัย 15 ปีได้รับบาดเจ็บสาหัสด้วย
สำหรับเหตุรุนแรงที่ครูตกเป็นเป้าหมายไม่ได้เกิดขึ้นมานานนับปีแล้ว หลังจากตลอดระยะเวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมามีครูและบุคลากรทางการศึกษาตกเป็นเหยื่อความรุนแรงมากถึง 182 ชีวิต
เมื่อวันพุธที่ 19 ก.ย.61 มีการจัดงานรำลึกคุรุวีรชนชายแดนใต้ ครั้งที่ 9 เพื่ออุทิศส่วนกุศลและน้อมรำลึกคุณงามความดีและความเสียสละในการปฏิบัติหน้าที่ของครู และบุคลากรทางการศึกษาชายแดนใต้ ซึ่งต้องทำหน้าที่จนวาระสุดท้ายของชีวิต โดยงานจัดขึ้นที่โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ปัตตานี
ครูบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ไม่ได้ต้องการตอกย้ำถึงจำนวนการสูญเสีย แต่อยากให้สังคมรับรู้ว่าการสูญเสียเป็นเรื่องยิ่งใหญ่ แม้ว่าขณะนี้สถานการณ์อาจจะดีขึ้นมาตามลำดับ แทบไม่พบความสูญเสียของบุคลากรทางการศึกษาแล้ว แต่ตลอดระยะเวลา 14 ปีที่ผ่านมา มีครูต้องสังเวยชีวิต เป็นเหยื่อในเหตุการณ์ความไม่สงบถึง 182 ราย ได้รับบาดเจ็บ 162 ราย พิการอีก 11 ราย ถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในแวดวงการศึกษาไทย
ที่มา / https://www.isranews.org/south-news/other-news/69960-name.html