ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ชายแดนใต้เป็นครั้งที่ 2 ตั้งแต่รับตำแหน่ง ลุยตรวจเยี่ยมกำลังพล ติดตามการทำงาน พร้อมเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่อย่างเข้มงวด ขณะที่ทหารพรานโชว์ผลงานทลายฐานพักกลุ่มก่อความไม่สงบที่นราธิวาส
พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เดินทางไปที่กองบัญชาการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเย็นของวันอาทิตย์ที่ 16 ธ.ค.61 เพื่อตรวจเยี่ยมกำลังพล พร้อมประชุมติดตามงาน และมอบของขวัญปีใหม่เป็นขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่
ทันทีที่เดินทางไปถึง ผบ.ทบ.ได้เรียกประชุมผู้บังคับหน่วยในพื้นที่ทุกหน่วย นำโดย พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร รักษาราชการแทนเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผู้ว่าและรองผู้ว่าราชการจังหวัด 4 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีผู้บังคับหน่วยในพื้นที่เข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
ภายหลังการประชุม พล.อ.อภิรัตช์ แถลงว่า การลงมาในครั้งนี้ เป้าหมายประการแรกคือมาชมเชยการปฏิบัติงานในห้วงที่ผ่านมาของเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ได้ร่วมมือบูรณาการข่าวสาร ทำให้การปฏิบัติงานทั้งการปิดล้อม ตรวจค้น และการปฏิบัติการตอบโต้ต่อผู้ไม่หวังดีได้ผลเป็นที่น่าพอใจยิ่ง
และประการที่ 2 มาติดตามงานตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ที่ได้มอบหมายมาตั้งแต่เดือน ต.ค. ทั้งเรื่องการปราบปรามยาเสพติด และสินค้าเกษตรที่ลักลอบนำเข้าอย่างผิดกฎหมาย วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรกที่ได้เชิญตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และหัวหน้านายด่านศุลกากรในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคตใต้มาร่วมประชุมด้วย เพื่อจะได้รับทราบนโยบายในการทำงานร่วมกัน
ส่วนสถานการณ์ในพื้นที่ขณะนี้ ผบ.ทบ. บอกว่า โดยรวมดีขึ้นมาก ประชาชนมีความเข้าใจการปฏิบัติของฝ่ายความมั่นคง อีกทั้งเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ อส. (อาสารักษาดินแดน) และชุดคุ้มครองหมู่บ้าน ตำบล มีการร่วมมือกันปฏิบัติงานในเชิงรุกเป็นอย่างดี
“ผมได้ย้ำเสมอว่าการดำเนินการจะต้องเดินหน้าทั้งในเชิงยุทธการควบคู่การพัฒนา และขยายผลไปยังกำนันผู้ใหญ่บ้าน โดยเฉพาะศูนย์ดำรงธรรมเคลื่อนที่ เพื่อทำทุกอย่างให้ประชาชนมีความสุข ทำมาหากินได้ มีระบบสาธารณูปโภคที่ดี เจ้าหน้าที่ของรัฐต้องเข้าไปช่วยเหลือด้วยความบริสุทธิ์ใจ ร่วมมือกันทั้งกระทรวงมหาดไทย และกลาโหม เชื่อว่าถ้าประชาชนอยู่กันอย่างเป็นสุข ก็คงไม่อยากให้มีเหตุร้ายเกิดขึ้นในพื้นที่ สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการก่อเหตุรุนแรงได้”ผบ.ทบ.ระบุ
พล.อ.อภิรัชต์ บอกด้วยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ได้เน้นย้ำการดูแลรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะในเขตเศรษฐกิจ 8 เมืองหลักเป็นพิเศษ เพื่อให้ประชาชนได้เฉลิมฉลองในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่อย่างมีความสุข พร้อมเชื่อมั่นว่าการร่วมกันบูรณการการทำงานของทุกฝ่ายในพื้นที่ จะทำให้ภารกิจสำเร็จลุล่วง
“อีกเรื่องที่สำคัญก็คือเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติด ผมพอใจกับการทำงานในขณะนี้มาก ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกันในระดับเจ้าหน้าที่โดยแม่ทัพภาคที่ 3 (คุมพื้นที่ภาคเหนือ) และแม่ทัพภาคที่ 4 (คุมพื้นที่ภาคใต้) ได้มีการประสานการทำงานกันอย่างเข้มแข็ง ผลงานในรอบเดือนที่ผ่านมาเทียบเท่ากับการทำงาน 6 เดือน มีการกวาดล้างจับกุมยาเสพติดได้จำนวนมากมายมหาศาล ยิ่งจับยิ่งเจอ ซึ่งนโยบายที่มอบไว้ให้คือ ต้องหยุดยาเสพติดตามแนวชายแดนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 ให้ได้ ตั้งแต่ลุ่มน้ำโขงข้ามมาตามแนวชายแดน ป่า ภูเขาในประเทศรอบด้าน เรื่อยมาจนถึงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 4 ให้มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตลอดเส้นทาง”พล.อ.อภิรัชต์ กล่าว
หลังการแถลงข่าว ผบ.ทบ.ได้มอบของขวัญปีใหม่เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่หน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนถาคใต้ พร้อมอวยพรปีใหม่ให้ทุกภาคส่วนปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเข้มแข็งต่อไป
ปะทะ-ยึดฐานกลุ่มป่วนใต้ เจอระเบิดโต้ทันควัน
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันพุธที่ 12 ธ.ค.61 เกิดเหตุยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารพรานกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยในพื้นที่ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ทลายเพิงพักและยึดปืนอาก้าได้ 1 กระบอก
เหตุยิงปะทะเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.30 น. วันพุธที่ 12 ธ.ค. หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 รายงานว่า ชุดปฏิบัติการของหน่วยได้ยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยในพื้นที่บ้านแฮ หมู่ 4 ต.บองอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ระหว่างออกปฏิบัติการลาดตระเวนพื้นที่ แล้วไปพบฐานพักของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จึงเกิดการยิงปะทะกัน
ต่อมาหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้ประสานไปยังหน่วยปฏิบัติการพิเศษ เข้าปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่อีกชั้นหนึ่ง พบรอยเลือดของคนร้ายบริเวณใกล้กับจุดปะทะ คาดว่าน่าจะมีคนร้ายได้รับบาดเจ็บและกำลังหลบหนี ส่วนฝ่ายทหารพรานทุกนายปลอดภัย
จากนั้น เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังเข้าตรวจค้นบริเวณเทือกเขาตะเว เขตรอยต่อ ต.บองอ อ.ะแงะ พบเพิงพักของกลุ่มคนร้ายอยู่ตามแนวเชิงเขา แต่ไม่พบตัว เจ้าหน้าที่คาดว่าน่าจะยังหลบหนีไปได้ไม่ไกล จึงมีการประสานให้ตรวจสอบตามสถานีอนามัยและโรงพยาบาลว่ามีคนถูกยิงเข้ารักษาตัวหรือไม่
สำหรับเพิงพักชั่วคราวของคนร้าย มีจำนวน 10 หลัง ใช้ผ้าใบลายพรางทำเป็นหลังคากันฝน แต่ละหลังอยู่ห่างกันประมาณ 2-5 เมตร โดยเพิงพักบางหลังคนร้ายได้ตากเสื้อผ้าและกางเกงลายพรางทหารที่ใช้ใส่เคลื่อนไหวก่อเหตุรุนแรงเพื่อให้พี่น้องประชาชนสับสนด้วย นอกจากนั้นในเพิงพักแต่ละหลังเจ้าหน้าที่ยังตรวจสอบพบอุปกรณ์ยังชีพ จำพวกอาหารกระป๋อง บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รวมไปถึงน้ำดื่มบรรจุขวด และยังพบปืนอาก้าอีก 1 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุน จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนราธิวาสเข้าเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ โดยเฉพาะลายนิ้วมือแฝง และสารพันธุกรรม หรือ ดีเอ็นเอ เพื่อหาเบาะแสของคนร้ายต่อไป
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน หลังเกิดเหตุปะทะได้ไม่นาน คนร้ายอีกกลุ่มหนึ่งได้ลอบวางระเบิดรถปิคอัพของเจ้าหน้าที่ทหารพราน สังกัดหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 45 ริมถนนในท้องที่ ต.เฉลิม อ.ระแงะ อำเภอเดียวกับที่เจ้าหน้าที่ยิงปะทะกับกลุ่มติดอาวุธ แรงระเบิดทำให้รถกระบะหุ้มเกราะของเจ้าหน้าที่ได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีกำลังพลได้รับอันตราย โดยระเบิดที่คนร้ายใช้เป็นชนิดแสวงเครื่อง ประกอบใส่ในถังแก๊ส น้ำหนักประมาณ 20-25 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยวิทยุสื่อสาร โดยคนร้ายเลือกก่อเหตุโจมตีรถของทหารพรานที่บรรทุกอุปกรณ์และเครื่องดื่มไปสนับสนุนกิจกรรม “อำเภอเคลื่อนที่” และดักวางระเบิดช่วงขากลับ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นการกระทำของกลุ่มก่อความไม่สงบ
ที่มา / https://www.isranews.org/south-news/other-news/72046-bigdang.html